“เรือใบสีฟ้า” แมนฯซิตี้ เตรียมเปิดรังเอติฮัด สเตเดียม ทำศึกชิงอันดับ 3 ดวลกับ “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล อาคันตุกะจากกรุงลอนดอน ในฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดซุปเปอร์บิ๊กแมตช์ คืนนี้ (อาทิตย์ 8 พ.ค.) เกมนี้เจ้าบ้านแมนฯซิตี้ จะไร้ แว็งซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมที่เจ็บ รวมถึง ดาวิด ซิลวา มิดฟิลด์ชาวสเปน ที่ส่อแววชวดบู๊...

นัดนี้เช่นกัน แต่ยังมีเควิน เดอ บรอยน์ กับ เซร์คิโอ อเกวโร เป็นตัวทีเด็ดในแนวรุก ส่วน “ปืนใหญ่” ก็จะไม่มี แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์ ปราการหลังชาวเยอรมัน ยืนค้ำแนวรับ เนื่องจากบาดเจ็บ ทว่ายังมี เมซุต โอซิล และอเล็กซิส ซานเชซ เป็น 2 แข้งอันตราย ยิงสดให้ชมทางซีทีเอช สเตเดียม 5 เริ่ม 4 ทุ่มตรง ด้าน “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส รองจ่าฝูง ที่ยังหวังเก็บสามแต้มเพื่อซิวรองแชมป์ จะเฝ้าบ้านรับมือ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน เกมนี้สเปอร์สจะส่ง แฮร์รี เคน ลงล่าตาข่าย เริ่มเตะ 19.30 น. ถ่ายสดทางซีทีเอช สเตเดียม 2

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 โปรแกรมซุปเปอร์ซันเดย์ คืนนี้ (อาทิตย์ที่ 8 พ.ค.) มีเกมดวลแข้งรวมทั้งสิ้น 3 คู่ โดยคู่เอกจะเป็นศึกชิงอันดับ 3 ระหว่าง “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะเปิดสนามเอติฮัด สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ไอ้ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เริ่มแข่งเวลา 22.00 น. ถ่ายทอดสดให้ชมทางซีทีเอช สเตเดียม 5

ก่อนแข่งนัดนี้ แมนฯซิตี้รั้งอันดับ 4 มีคะแนนตามหลังอาร์เซนอล อันดับ 3 อยู่ 3 แต้ม แต่เรือใบ สีฟ้ามีลูกได้เสียดีกว่า ดังนั้นหากแมนฯซิตี้คว้าชัยชนะเกมนี้ได้ ก็จะกระโดดแซงหน้าอาร์เซนอลขึ้นไปอยู่อันดับ 3 ทันที

อย่างไรก็ตาม แมตช์นี้ เจ้าบ้านแมนฯซิตี้ มีปัญหาผู้เล่นตัวหลักบาดเจ็บหลายคน อาทิ แว็งซองต์ กอมปานี กองหลังกัปตันทีมชาวเบลเยียม ที่ได้รับบาดเจ็บจากเกมแชมเปียนส์ลีกรอบรองฯที่บุกไปแพ้เรอัล มาดริด 0-1 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำให้แมนฯซิตี้ร่วงตกรอบ อดเข้าชิงชนะเลิศ เป็นเหตุให้ กอมปานีจะชวดลงมายืนค้ำแนวรับให้แมนฯซิตี้ในเกมนี้อย่างแน่นอน

นอกจากกอมปานีแล้ว ดาวิด ซิลวา, ปาโบล ซาบาเลตา และอเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ ก็ถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน และจะหมดสิทธิ์ลงบู๊ให้แมนฯซิตี้ในเกมนี้เช่นกัน แต่ทว่าในแนวรุกยังมี เควิน เดอ บรอยน์, ยายา ตูเร และราฮีม สเตอร์ลิง เป็นตัวปั้นเกม คอยเปิดบอลให้เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าตัวเป้าทำประตู ส่วนทางฝั่ง “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล ก็จะไร้แพร์ เมอร์เตซัคเกอร์ ปราการหลังชาวเยอรมัน และอเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน กองกลางตัวรุก ซึ่งได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ ทว่ายังมีอเล็กซิส ซานเชซ, เมซุต โอซิล, แดนนี เวลเบค และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ เป็นตัวอันตรายในแนวรุก สำหรับแนวโน้มความน่าจะเป็นในเกมนี้ ทั้งสองทีมน่าจะเปิดเกมรุกแลกกันอย่างสนุก และอาจต้องตัดสินกันที่แดนหน้า ซึ่งดูแล้วแมนฯซิตี้ มีความเฉียบคมในการทำประตูมากกว่า จึงน่าจะเป็นฝ่ายคว้าชัยในเกมนี้ได้

ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมรองจ่าฝูง จะเปิดสนามไวท์ ฮาร์ทเลน รับการมาเยือนของ “นักบุญ” เซาแธมป์ตัน อาคันตุกะจากแดนใต้ (เริ่มเตะ 19.30 น. ยิงสดทางซีทีเอช สเตเดียม 2) เกมนี้เจ้าบ้านสเปอร์สยังต้องการสามคะแนนเต็ม เพื่อเป็นการการันตีเข้าป้ายในตำแหน่งรองแชมป์ โดยจะส่งแฮร์รี เคน ลงล่าตาข่าย แต่จะไร้เดเล อัลลี กองกลางดาวรุ่ง ที่ติดโทษแบน ขณะที่ทีมเยือนนักบุญ จะส่งซาดิโอ มาเน หัวหอกตัวเก่งลงล่าตาข่ายทีมไก่เดือยทอง

ทางด้าน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่งเพิ่งผ่านเข้าชิงชนะเลิศศึกยูโรปาลีกฤดูกาลนี้ได้สำเร็จ หลังจากเอาชนะบียาร์เรอัลด้วยสกอร์รวม 2 นัด 3-1 จะเปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด เริ่มแข่ง 4 ทุ่มตรง ยิงสดทางสเตเดียม 2 เกมนี้ ลิเวอร์พูลเตรียมจัดทัพใหญ่ลงบู๊ นำโดยคูตินโญ, ลัลลานา, ฟีร์มิโน และสเตอร์ริดจ์ หวังจะฉีกตาข่ายทีมเยือนวัตฟอร์ด เพื่อเก็บ 3 แต้มเต็มให้ได้



ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : .thairath.co.th