ขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย เตรียมลงสนามอุ่นเครื่อง “ฟีฟ่าเดย์” กับทีม “พลังโสม” เกาหลีใต้ ค่ำวันนี้ (27 มี.ค.) ที่สนามศุภชลาศัย กุนซือ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เตรียมโรเตชั่น ใช้นักเตะที่สดกว่าลงสนามรับมือ นำโดย “เจ้าตี๋” สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารจอมเก๋า และส่ง “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ล่าตาข่าย ขณะที่ “เจ้าโน๊ต” จักรพันธ์ แก้วพรม น่าจะได้ลงบัญชาการเกมในแดนกลาง ส่วนทีมโสมขาวมี 6 นักเตะที่ค้าแข้งในยุโรปเป็นแกนหลัก “ไทยรัฐทีวี” ดิจิตอลทีวี ช่อง 32 จะยิงสดให้ชมทั่วประเทศ ตั้งแต่ 19.00 น. นอกจากนี้กุนซือจอมตีลังกาของทีมชาติไทย เผยจะขอนัดเคลียร์เรื่องสัญญากับทาง “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯเป็นลำดับแรก หลังก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง

ความเคลื่อนไหวของขุนพล “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ภายหลังจากที่ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มเอฟ ด้วยการผ่านเข้าไปเล่นในรอบ 3 หรือรอบ 12 ทีมสุดท้าย รวมถึงศึกเอเชียนคัพ 2019 ที่ประเทศยูเออี ในฐานะแชมป์กลุ่มเป็นที่เรียบร้อยแล้วและในค่ำวันนี้ (27 มี.ค.) แข้งช้างศึกก็มีโปรแกรมอุ่นเครื่องตามปฏิทิน “ฟีฟ่าเดย์” พบกับทีม “พลังโสม” เกาหลีใต้ ที่สนามศุภชลาศัย เวลา 19.30น. โดย “ไทยรัฐทีวี” ดิจิตอลทีวี “ช่อง 32” จะถ่ายทอดสดให้ชมกันทั่วประเทศ ตั้งแต่ 19.00 น.เป็นต้นไป

ล่าสุดเมื่อเวลา 12.40 น. ของวันเสาร์ที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา ทัพนักเตะช้างศึก ภายใต้การคุมทีมของ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ พร้อมด้วยคณะนักฟุตบอลทั้งหมดได้เดินทางกลับถึงเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว ด้วยสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK 376 ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับจากแฟนบอลชาวไทยอย่างอบอุ่น รวมถึงกองทัพสื่อมวลชน ที่มาปักหลักรายงานข่าวอย่างคับคั่ง

“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ทีมชาติไทย เปิดเผยว่า “รู้สึกดีใจที่มีส่วนร่วมสร้างประวัติศาสตร์อีกหน้าหนึ่งของวงการฟุตบอลไทย จากที่สมัยเป็นนักเตะเคยพาทีมไปสู่รอบสุดท้ายมาแล้ว และตอนนี้ก็ทำสำเร็จอีกครั้งในฐานะโค้ช ก็ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอลชาวไทย”

ขณะเดียวกันเฮดโค้ชทีมชาติไทยยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า “สิ่งแรกที่จะเข้าหารือกับนายกสมาคมฯก็คือเรื่องของสัญญาของผมเองและทีมงานสตาฟฟ์โค้ช หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ส่วนการเตรียมทีมในรอบ 12 ทีมสุดท้าย ยืนยันว่าพร้อมเจอกับใครก็ได้ทั้งนั้น เพราะรอบนี้ไม่ว่าจะเจอกับชาติไหนก็แข็งแกร่งทั้งสิ้น เนื่องจากเป็นทีมชั้นนำของเอเชียทั้งหมด และหากมีโอกาสได้ไปเก็บตัวที่สโมสรเลสเตอร์ ซิตี้ ที่ประเทศอังกฤษ คงจะเป็นเรื่องที่ดีแน่นอนเพราะจะทำให้ทีมแข็งแกร่งขึ้น ทั้งนี้จะมีการหารือกันกับผู้ใหญ่ให้ชัดเจนอีกครั้ง”

สำหรับเกมอุ่นเครื่องกับเกาหลีใต้ในค่ำวันนี้ กุนซือ “ซิโก้” ก็คงจะพักผู้เล่นตัวจริงที่เล่นในเกมเสมอกับอิรัก โดยเน้นโรเทชั่นนักเตะที่สดกว่าลงไปรับมือกับทีมพลังโสม ไม่ว่าจะเป็นผู้รักษาประตูจอมเก๋า สินทวีชัย หทัยรัตนกุล หรือแนวรับอย่าง พีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, สุทธินันท์ พุกหอม ขณะที่กองกลาง “เจ้าโน๊ต” จักรพันธ์ แก้วพรม ก็จะได้ออกสตาร์ตเป็นตัวจริง เช่นเดียวกับสรรวัชร์ เดชมิตร ส่วนแนวรุก นุรูล ศรียานเก็ม จะได้ลงไปวาดลวดลาย พร้อมกับกองหน้าดาวยิงของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด “เจ้ากอล์ฟ” อดิศักดิ์ ไกรษร ที่กำลังมั่นใจหลังเพิ่งซัลโวประตูอิรักมาได้

ส่วนทางด้านทีม “พลังโสม” เกาหลีใต้ ที่ปัจจุบันรั้งอันดับที่ 57 ของโลก และเป็นที่ 3 ของเอเชีย ที่เพิ่งเฉือนชนะเลบานอนมา 1-0 ผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายคัดบอลโลก ด้วยสถิติชนะรวด 7 นัด และไม่เสียประตูให้ทีมใดเลย ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันศุกร์ที่ผ่านมา อูลี สตีลิเก ผู้จัดการทีมชาติชาวเยอรมันของเกาหลีใต้ พร้อมด้วยลูกทีมจำนวน 21 คน ได้เดินทางถึงประเทศไทย

โดยขุมกำลังในเกมนี้แม้จะขาด คู จา โชล และจี ดอง วอน สองแข้งจากเอาก์สบวร์ก และ คิม จิน ฮยอน จากเซเรโซ โอซากา ที่บาดเจ็บ แต่ยังนำทัพมาโดย 6 ผู้เล่นที่ค้าแข้งในยุโรปทั้ง คิม จิน ซู (ฮอฟเฟนไฮม์), พาร์ค จู-โฮ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์), ฮง เจือง โฮ (เอาก์สบวร์ก), อี ชุง-ยอง (คริสตัล พาเลซ), ซุก ฮยุน จุน (เอฟซี ปอร์โต) และสตาร์ดังอย่าง คี ซุง ยอง (สวอนซี)

ที่มา : thairath.co.th