“จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูงที่ ต้องการชัยชนะอีกเพียง 4 นัด ก็จะผงาดซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ จะจัดทัพใหญ่เต็มสูบลงบู๊ นำโดยเอ็นโกโล ก็องเต, แดนนี ดริงก์วอเตอร์, ริยาด มาห์เรซ, ชินจิ โอกา-ซากิ และเจมี วาร์ดี ในการยกทัพบุกเยือน “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 3 จากท้ายตาราง ที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นสุดชีวิต ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนนี้ (อาทิตย์ 10 เม.ย.) เริ่มแข่ง 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางซีทีเอช สเตเดียม 4 ขณะที่ “ไก่เดือยทอง” สเปอร์ส รองจ่าฝูง เจองานหนัก เมื่อจะเปิดรังรับมือ “ปิศาจแดง” แมนฯยู เกมนี้ถ้าสเปอร์ส แพ้อาจจะหมดลุ้นแชมป์ทันที คู่นี้ยิงสดให้ชมทางซีทีเอช สเตเดียม 1 เริ่ม 4 ทุ่มตรง ส่วน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เตรียมส่งลัลลานา กับคูตินโญ เป็นสองประสานในแนวรุก หวังเก็บสามคะแนนเต็ม ในการเปิดรังแอนฟิลด์ดวลกับ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี้ ถ่ายสดทางสเตเดียม 2 เริ่ม 4 ทุ่มตรงเช่นกัน

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015-16 โปรแกรมซุปเปอร์ซันเดย์ คืนนี้ (อาทิตย์ที่ 10 เม.ย.) มีการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 3 คู่ 3 สนาม โดยไฮไลต์จะอยู่ที่การลงสนามของ 2 ทีมที่กำลังลุ้นแย่งแชมป์กันอย่างสนุก คือ “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมจ่าฝูง และ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมรองจ่าฝูง ซึ่งมีช่องว่างคะแนนระหว่าง 2 ทีมห่างกันอยู่ 7 แต้ม โดยจ่าฝูงเลสเตอร์จะลงเล่นก่อนบุกไปเยือนทีมหนีตกชั้นอย่างซันเดอร์แลนด์ ส่วนสเปอร์ส ซึ่งลงเตะทีหลังเจองานหนักกว่า เมื่อจะเฝ้าบ้านรับมือ “ปิศาจแดง” แมนฯยู

โดยคู่แรกนั้นจะเป็นเกมระหว่าง “แมวดำ” ซันเดอร์แลนด์ ทีมอันดับ 3 จากท้ายตาราง (อันดับ 18) จะเปิดสนามสเตเดียม ออฟ ไลท์ รับการมาเยือน ของจ่าฝูง “จิ้งจอกสยาม” เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งต้องการชัยชนะอีกเพียง 4 นัดจาก 6 เกมสุดท้ายที่เหลือ ก็จะผงาดซิวแชมป์พรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ทันที โดยคู่นี้จะเริ่มเตะเวลา 19.30 น. ถ่ายทอดสดทางซีทีเอช สเตเดียม 4 

แมตช์นี้ เจ้าบ้านซันเดอร์แลนด์ของกุนซือ “บิ๊กแซม” แซม อัลลาร์ไดซ์ ต้องการทุกคะแนนเพื่อขยับหนีพ้นโซนตกชั้นให้ได้ โดยตอนนี้ทีม “แมวดำ” มีคะแนนตามหลังอันดับ 17 นอริช ซิตี้ อยู่ 4 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่าอยู่ 1 นัด คาดว่าเกมนี้ “บิ๊กแซม” กุนซือซันเดอร์แลนด์ จะจัดผู้เล่นชุดดีที่สุดลงสนาม นำโดยลี แคตเตอร์โมล คุมแดนกลาง ส่วนแนวรุกมีวาห์บี คาร์ซี กับฟาบิโอ บอรินี เป็นตัวสนับสนุนเกมรุก คอยป้อนบอลให้กองหน้าตัวเป้าอย่างเจอร์เมน เดโฟ ล่าตาข่าย

ทางด้าน เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือขรัวเฒ่าของเลสเตอร์ คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวผู้เล่นจากชุดที่เปิดรังเฉือนชนะเซาแธมป์ตัน 1-0 เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเอาชนะคู่แข่งด้วยสกอร์ 1-0 เป็นนัดที่ 5 จาก 6 เกมหลังสุดของทัพ” จิ้งจอกสยาม” โดยเกมนี้เชื่อว่าเลสเตอร์จะส่ง เวส มอร์แกน กับโรเบิร์ต ฮูธ ยืนเป็นคู่เซ็นเตอร์ฮาล์ฟค้ำแนวรับ ขยับมาที่แผงมิดฟิลด์มีเอ็นโกโล ก็องเต, แดนนี ดริงก์วอเตอร์ และมาร์ก อัลไบรท์ตัน ประจำการในแดนกลาง ส่วน 3 ประสานแนวรุกยังคงเป็นเจมี วาร์ดี, ริยาด มาห์เรซ และชินจิ โอกาซากิ เหมือนเดิม ทั้งนี้ แนวโน้มเกมคาดว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เลสเตอร์จะบุกมาคว้าชัยในเกมนี้ เพราะซันเดอร์ลนด์จะสู้ยิบตาแน่ สุดท้ายเชื่อว่าเกมน่าจะลงเอยด้วยผลเสมอ 1-1

ส่วนเกมบิ๊กแมตช์ที่สนามไวท์ ฮาร์ทเลน ของ “ไก่เดือยทอง” ทอตแนม ฮอตสเปอร์ รองจ่าฝูง ซึ่งจะเปิดบ้านต้อนรับ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยจะถ่ายทอดสดให้ชมทางซีทีเอช สเตเดียม 1 เริ่ม 22.00 น. เกมนี้ สเปอร์สจะแพ้ไม่ได้เด็ดขาด หากยังหวังจะเป็นแชมป์ โดยจะส่งทีมชุดใหญ่ลงสนาม มีเอริก ดายเยอร์, คริสเตียน อีริกเซน และมุสซา เดมเบเล เป็นสามประสานในแดนกลาง ส่วนแนวรุกมีเดเล อัลลี ยืนเป็นหน้าต่ำ และหน้าเป้าเป็นแฮร์รี เคน กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ลงล่าตาข่าย ขณะที่หลุยส์ ฟาน กัล กุนซือแมนฯยู อาจจะได้ เวย์น รูนีย์ กัปตันทีม กลับคืนทีม แต่น่าจะเป็นแค่ตัวสำรอง โดยที่มาร์คัส แรชฟอร์ด จะได้ยืนเป็นกองหน้าตัวจริงอีกนัด ประสานงานกับอ็องโตนี มาร์กเซียล และฮวน มาตา

สำหรับอีกคู่นั้น “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล จะเปิด สนามแอนฟิลด์รับมือ “ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี้ เริ่มแข่ง 22.00 น. ยิงสดทางซีทีเอช สเตเดียม 2 โดยเกมนี้ เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือหงส์แดง จะต้องเลือกระหว่าง ดิว็อก โอริกี กับดาเนียล สเตอร์ริดจ์ ว่าใครจะลงเป็นกองหน้าตัวจริงในเกมนี้ แต่ยังมีฟิลิปเป คูตินโญ กับอดัม ลัลลานา ปั้นเกมรุกเหมือนเดิม ขณะที่สโต๊กของกุนซือมาร์ก ฮิวจ์ส จะส่งมาร์โก อาร์เนาโตวิช และเซอร์ดาน ชากิรี เป็นตัวอันตรายในแนวรุก

ที่มา : thairath.co.th