ความลับ 14 ปีถูกเปิดเผย! ''เนสต้า'' แฉหมดเปลือก สาเหตุที่ย้ายจาก ''อินทรีฟ้าขาว'' ยอมรับ อยากกลับไปหลายครั้ง แต่ทุกครั้งสโมสรเฉย

 อเลสซานโดร เนสต้า อดีตแข้งคนดังของ ลาซิโอ ในศึก กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ยอมรับว่า อยากกลับต้นสังกัดเดิม เพื่อชดเชยความผิดพลาดที่จากมาเมื่อปี 2002 ขณะที่ทีมกำลังตกต่ำและเป็นหนี้ ก่อนตัดสินใจย้ายไปโด่งดังสุดขีดที่ เอซี มิลาน แต่ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่พยายามหาทางคื่นถิ่น ก็เหมือนสโมสรไม่เคยสนใจจะดึงตัวกลับไป 

แนวรับทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์โลก 2006 เป็นเด็กปั้นของ "อินทรีฟ้าขาว" และเล่าย้อนความหลังเมื่อกว่า 10 ปีที่แล้วว่า "ผมเริ่มต้นกับ ลาซิโอ และก็ทำได้ค่อนข้างดี ผมเป็นกัปตันทีม แล้วก็มีวิกฤตในสโมสร ผมเองก็วิกฤตเหมือนกัน ตอนนั้นมีหลายทีมอยากได้ตัวผม ทุก 4 เดือนจะมีสายโทรมาบอกว่า พวกเขาอยากขายผม แต่ผมตอบว่าไม่ จนกระทั่งวันสุด (ของตลาดซื้อขายปี 2002) ผมก็ต้องไป เพราะตอนนั้นบัญชีสโมสรติดตัวแดง"


"ตอนนั้นผมจะตัดสินใจอยู่ก็ได้ แต่ก็ไม่มีใครได้รับเงินเดือนมานานกว่า 1 ปี 7 เดือนแล้ว ผมรู้ว่ามันอันตรายมาก เราอาจล้มละลาย วันสุดท้ายของตลาดซื้อขายปีนั้นผมก็เลยย้ายไป เอซี มิลาน หลังจากที่ทุกคนได้ข้อสรุปของตัวเองแล้ว ผมไม่เคยพูดมาก่อนเลยว่า ผมย้ายทำไม สถานการณ์ตอนนั้นมันผิดพลาดไปหมด ถ้าผมเป็นผู้ใหญ่พอ ทุกอย่างอาจดีกว่านี้ แล้วสโมสรก็ขายทุกคน ความจริงผมควรพูดเรื่องนี้ออกทีวีตั้งนานแล้ว แต่ผมก็เก็บมันไว้กับตัวและยอมรับคำตำหนิ สิ่งที่ผมจำได้เสมอคือผมเคยทำอะไรได้บ้างกับ ลาซิโอ และเป็นกัปตันทีม"


"อีกครั้งหนึ่งก็คือปี 2007 ตอนนั้น (มัสซิโม่) อ็อดโด้ เป็นกัปตันทีม ลาซิโอ ผมเจอเขาในทีมชาติ ผมถามเขาว่าผมกำลังจะหมดสัญญา ลาซิโอ สนใจไหม? แต่มันก็ผ่านไป ไม่มีใครมาเจรจากับผมเลย ทั้งที่ผมไม่เรียกร้องเงินหรืออะไรทั้งนั้น และปีนั้นผมก็ได้แชมป์ แชมเปี้ยนส์ ลีก กับ มิลาน ผมก็เลยอยู่ต่อ ผมก็สบายดีนะ เพราะทุกคนก็มีทางเลือกของตัวเอง" เนสต้า อธิบาย


ปราการหลังระดับโลกยังบอกด้วยว่า ความตั้งใจของตัวเองยังไม่จบ และเล่าต่ออีกว่า "ความจริงแล้วผมก็มีความตั้งใจที่จะกลับไปอีกก่อนมาที่สหรัฐ (ปี 2012) แต่อายุของผมมากเกินไปแล้ว เงื่อนไขของผมไม่ดีพอ ผมก็เลยมาที่อเมริกา ผมไม่รู้ว่า อ็อดโด้ เคยบอกสโมสรหรือเปล่า หรือสโมสรคิดว่าผมจะเรียกค่าตัวแพงๆ ก็ไม่รู้ ผมคงไม่สามารถพูดได้ว่า (เคลาดิโอ) โลติโต้ (ประธาน ลาซิโอ) ปฏิเสธที่จะให้ผมกลับไป"


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thscore.cc