จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ ไว้ลายสมราคาแชมป์ เปิดบ้านไล่ต้อนเอาชนะ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ขาดลอย 3-1 ฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกในบ้านตัวเองสุดยิ่งใหญ่..

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2015/16 ประจำวันที่ 7 พ.ค. เป็นการแข่งขันในคู่ระหว่าง "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ เจ้าของแชมป์ฤดูกาลนี้ เปิดสนาม คิง พาวเวอร์ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ "ทอฟฟี่สีน้ำเงิน" เอฟเวอร์ตัน ทีมอันดับ 12 ของตาราง

เกมนี้เจ้าถิ่นที่ต้องการเก็บชัยชนะฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกในบ้านตัวเองได้ เจมี วาร์ดี พ้นโทษแบนกลับมาประจำการหัวหอกอีกครั้ง แต่แดนนี ดริงก์วอเทอร์ และ โรเบิร์ต ฮูธ 2 แข้งคนสำคัญติดโทษแบนอดลงเล่นทำให้ แอนดี คิง และ มาร์ซิน วาซิเลฟสกี ได้รับโอกาสลงสนามมาแทน ส่วนแข้งคนสำคัญรายอื่นอย่าง ริยาด มาห์เรซ,ชินจิ โอกาซากิ,เอ็นโกโล ก็องเต ต่างลงสนามพร้อมกันเหมือนเดิม

เปิดฉากเกมมาแค่ 5 นาทีเจ้าถิ่นไม่พูดพร่ำทำเพลงเปิดเกมรุกเข้าใส่ทันทีและได้ประตูขึ้นนำ 1-0 จากลูกทุ่ม แดนดี คิง ครอสเข้ากลางไปหน้าประตูก่อนที่ เจมี วาร์ดี จะโฉบมายิงด้วยขวาผ่านมือ โรเบลส นายด่านทีมเยือนเข้าไป


เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 33 จิ้งจอกสยาม ได้ประตูหนีห่าง 2-0 ต้องชม ริยาด มาห์เรซ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวทะลวงแนวรับของทีมเยือนทำให้ เลห์ตัน เบนส์ ต้องสไลด์ทิ้งแต่ดันไม่ขาด บอลมาเข้าทาง แอนดี คิง วิ่งมาแปส่งบอลเข้าสู่ก้นตาข่าย


หลังจากนั้นสกอร์ยังไม่ขยับ จบครึ่งแรก เลสเตอร์ ซิตี้ ออกนำ เอฟเวอร์ตัน อยู่ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลังมาถึงนาทีที่ 65 เลสเตอร์ ได้ประตูฉีกห่าง 3-0 เมื่อมาได้ลูกโทษจากจัหงวะที่ เพนนิงตัน ไปเบียดใส่ วาร์ดี ล้มในเขตโทษ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะชี้เป็นลูกโทษทันทีและ วาร์ดี ก็รุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่เหลือซาก

อีก 6 นาทีให้หลัง จิ้งจอกสยาม มาได้ลูกโทษหนที่สอง จากจังหวะที่ กิ๊บสัน ไปสไลด์ใส่ ชลุปป์ ลงไปกองลงพ้น ทำให้ผู้ตัดสินต้องชี้เป็นลูกโทษอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้ วาร์ดี กลับซัดเต็มข้อบอลเหินข้ามคานไม่ได้ลุ้น อดยิงแฮตทริกอย่างน่าเสียดาย

ในช่วงสองนาทีสุดท้าย ทีมเยือนมาได้ประตูปลอบใจตีไข่แตก 1-3 จากจังหวะลุยเดี่ยวของ เควิน มิรัลลาส ก่อนหลุดไปยิงสวนตัว แคสเปอร์ ชไมเคิล เข้าไป

แต่สุดท้ายก็ไล่ไม่ทัน จบเกมการแข่งขัน "จิ้งจอกสยาม" เลสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังถล่ม เอฟเวอร์ตัน ขาดลอย 3-1 เก็บชัยต่อหน้าแฟนบอลในบ้านส่งท้ายฤดูกาลนี้พร้อมกับเป็นการฉลองแชมป์ลีกสูงสุดในรอบ 132 ปีสุดยิ่งใหญ่



ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thairath.co.th