บิ๊กแมตช์ชิงจ่าฝูง โตโยต้า ไทยลีก เสาร์นี้ (7 พ.ค.) “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมนำหัวตาราง ยกทัพใหญ่ นำโดย มาริโอ ยูรอฟสกี, ดรา-แกน บอสโควิช และเจย์ซี จอน “โจโจ้” บุกรังหญ้าเทียมลีโอ สเตเดียม ของ “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี ที่สมบูรณ์ทุกขุมกำลัง ขณะที่ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง ก็จะยกพลขึ้นเหนือไปเยือน “กว่างโซ้ง” เชียงราย ยูไนเต็ด ส่วน “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านรอรับแข้ง “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน...

ศึกฟุตบอล “โตโยต้า ไทยลีก 2016” วันเสาร์ที่ 7 พ.ค.นี้ จะเป็นเกม “นัดที่ 10” ของฤดูกาล มีแข่งขัน 5 คู่ 5 สนาม ซึ่งไฮไลต์อยู่ที่เกม “บิ๊กแมตช์” เวลา 20.00 น. “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับ 3 มี 21 คะแนน เปิดสนามหญ้าเทียมลีโอ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด จ่าฝูงของตาราง ที่มี 22 คะแนน ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต 2 กับทรูสปอร์ต เอชดี 3

เจ้าถิ่น บีจี เล่นในบ้านมา 4 นัด ชนะรวด และเป็นทีมที่ยิงประตูได้มากที่สุดในเวลานี้ 24 ประตู โดยเกมนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ ดังนั้นจะส่งผู้เล่นชุดใหญ่ลงสนามแน่นอน นำโดย 3 แข้งต่างชาติเกมรุกอย่าง ดาร์โก ทาเซฟสกี, ลาซาลัส คาอิมบี และอาเรียล อารายา โรดริเกวซ ที่เพิ่งมีชื่อติดทีมชาติคอสตาริกาทำศึกโคปา อเมริกา

ขณะที่ “แข้งเทพ” แบงค็อก ยูไนเต็ด เก็บชัยชนะมา 6 นัดรวด นัดนี้มาเยือนในสภาพฟูลทีม เกมรุกมี มาริโอ ยูรอฟสกี, ดราแกน บอสโควิช, เจย์ซี จอน “โจโจ้” เป็น 3 ประสาน ซึ่งหากแบงค็อก เก็บชัยชนะได้ จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงได้ต่อไป

อีกคู่ที่น่าสนใจ เวลา 18.00 น. “กว่างโซ้งมหาภัย” เชียงราย ยูไนเต็ด อันดับ 8 มี 15 คะแนน เฝ้ารังยูไนเต็ด สเตเดียม พบ “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด รองจ่าฝูง มี 21 คะแนน ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต 2 เจ้าถิ่นพลาดท่าแพ้มา 2 นัดติดต่อกัน เกมนี้ต้องพึ่ง อาทิตย์ สุนทรพิธ, รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก, เดนนิส มูริลโล ต่อไป

ด้านเอสซีจี เมืองทองฯ เก็บชัยชนะมา 4 นัดรวด นัดนี้อาจไม่มี อดิศักดิ์ ไกรษร ที่เจ็บเปลือกตาและเย็บถึง 13 เข็ม ทว่ายังมี “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, คลีตัน ซิลวา, ธีรศิลป์ แดงดา เป็นทีเด็ดในแนวรุกเหมือนเดิม ซึ่ง “กิเลน” มีโอกาสนำเป็นจ่าฝูง หากบีจีกับแบงค็อกจบลงด้วยผลเสมอ

เวลาเดียวกัน “กูปรีอันตราย” ศรีสะเกษ เอฟซี อันดับ 9 มี 13 คะแนน เล่นที่สนามศรีนครลำดวน พบ “ราชันมังกร” ราชบุรี มิตรผล เอฟซี อันดับ 6 มี 16 คะแนน ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต 7 เกมนี้ ศรีสะเกษ ที่มีสถิติเล่นในบ้าน 4 นัด ชนะรวด จะส่ง วิคเตอร์ อมาโร, การ์ฟา โดโรซินมี และภูวดล สุวรรณชาติ นำทีมในเกมรุกเหมือนเดิม ขณะที่ราชบุรียังคงต้องฝากความหวังที่ เฮเบอร์ตี เฟอร์นันเดซ เหมือนเดิม

ส่วนเวลา 19.00 น. “ตะหานน้ำ” ราชนาวี อันดับ 16 มีแค่ 5 คะแนน เปิดสนามราชนาวี สัตหีบ พบ “สวาดแคท” นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี อันดับ 14 มี 7 แต้ม ถ่ายทอดสดทรูสปอร์ต 6 เจ้าบ้านที่ไม่ชนะใครมา 5 นัดติด แถม 9 นัดแรกยิงได้แค่ลูกเดียว น้อยที่สุดในลีก แต่ขุมกำลังมีแต่หน้าเดิมๆ ดังนั้นเกมนี้จึงยังต้องพึ่งบริการของ อังเจลโล มาชูกา, อังเดร หลุยส์ ไลเต ต่อไป ส่วน นครราชสีมาไม่ชนะใครมา 5 เกมติด แต่นัดนี้ไม่มีปัญหาในการจัดทัพ โนอาห์ ชิวูตา, บียอร์น ลินเดมันน์, มาร์โก ทัคบาจูมี เป็นแกนหลัก

เวลาเดียวกัน “ฉลามชล” ชลบุรี เอฟซี อันดับ 10 มี 12 แต้ม เปิดบ้านชลบุรี สเตเดียม พบ “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน อันดับ 11 มี 12 คะแนน ถ่ายทอดสดทรู 4 ยู กับทรูสปอร์ต เอชดี 2 เจ้าบ้านยังคงไม่มี ปกเกล้า อนันต์ กับสุทธินันท์
พุกหอม ที่บาดเจ็บ จึงต้องพึ่ง เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์, ประกิต ดีพร้อม, เลอันโดร อัสซัมเซา เหมือนเดิม ส่วนบีอีซี เทโรศาสน ไม่มี สุพร ปินะกาตาโพธิ์ ที่บาดเจ็บพักยาว และซเรเตน ซเรเตโนวิช กองหลังร่างยักษ์ที่โดนแบน แต่มี มิลาน บูบาโล กับ ศิวกรณ์ เตียตระกูล เป็นทีเด็ดในเกมรุก



ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thairath.co.th