สุดช็อก "สราวุธ ลูกบ้านใหญ่" ไปไม่ถึงฝัน เมื่อพลิกแพ้คะแนนต่อ "บินาเต ยูซูป" นักชกชาวโกตดิวัวร์ ศึกมวยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก เมืองเยินเชอปิง ประเทศสวีเดน...

วันที่ 22 พ.ค. 59 สราวุธ ลูกบ้านใหญ่ ล็อกถล่ม เมื่อไปไม่ถึงฝันตั้งแต่ไก่โห่ หลังพลิกแพ้คะแนน บินาเต ยูซูป นักชกชาวไอวอรี่โคสต์ ไปแบบพลิกความคาดหมายในการชกรอบแรกของการแข่งขันศึกมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2016 ณ เมืองเยินเชอปิง ประเทศสวีเดน ระหว่างวันที่ 19–28 พฤษภาคม 2559 นี้

แมตช์ดังกล่าวแข่งขันเมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ณ คินแนป อารีนา เมืองเยินเชอปิง พร้อมย้ำยังไม่คิดเลิกมวยขอสู้ต่อไป ด้าน เพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป นักมวยไทยชื่อดังหืดจับอีกรายไล่เสียบเข่าพลิกแซงเอาชนะคะแนน ดิมิทรี วารัส นักชกชาวเบลารุส ผ่านรอบแรกได้ตามคาด ส่วน เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง โชว์หรูเดินไล่หวดแข้งต่อยหมัดเล่นงาน คอนสแตนติน คูซิน นักชกแดนหมีขาวทำอะไรไม่เป็นต้อนแต้มไปขาดลอย ตั้งเป้าซิวเหรียญทองกลับบ้าน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของการแข่งขันมวยไทยสมัครเล่นชิงแชมป์โลก 2016 ณ เมืองเยินเชอปิง (Jönköping) ประเทศสวีเดน วันที่ 19–28 พฤษภาคม 2559 นี้ โดยทีมชาติไทยได้ส่งนักกีฬาเข้าแข่งขันทั้งหมด 12 รุ่น แบ่งเป็นชาย 9 รุ่น และหญิง 3 รุ่น ซึ่งมีนักกีฬาดังต่อไปนี้ ฝ่ายชาย 1. ทิวากร ชอบทำกิจ (วิทยาเล็ก เพชรสี่หมื่น) รุ่น 48 กก., 2. อานนท์ พลกระโทก (นกกระจิบ ศิษย์พ่อแอ๊ด) รุ่น 51 กก., 3. ประนอม สังข์เงิน (มานะศักดิ์ ปิ่นสินชัย) รุ่น 54 กก., 4. วิวัฒน์ คำทา (แสน ปิ่นสินชัย) รุ่น 57 กก., 5. ฤทัยพันธ์ ทรัพย์มะณี (หยกวิทยา เพชรสี่หมื่น) รุ่น 60 กก., 6. สราวุธ สิงห์อินทร์ (สราวุธ ลูกบ้านใหญ่) รุ่น 63 กก., 7. ยุทธพงษ์ สิทธิโชติ (เพชรบุญชู เอ๊ฟ.เอ.กรุ๊ป) รุ่น 67 กก., 8. ศุภชัย หมื่นสังข์ (ซุปเปอร์บอล บัญชาเมฆ) รุ่น 71 กก. และ 9. เอกพันธ์ สมบูรณ์ทรัพย์ (เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง) รุ่น 75 กก. ส่วนฝ่ายหญิง 1. สุภิสรา คนหลัก (โลมา ลูกบุญมี) รุ่น 45 กก., 2. รัตนาพร หารพันธ์ (ลมมณี ส.เต๊ะหิรัญ) รุ่น 48 กก. และ 3. รัชฏาพร วิหารธรรมเม (สาวสิงห์ ม.รัตนบัณฑิต) รุ่น 57 กก. รายงานข่าววันที่ 7 ส่งตรงจากประเทศสวีเดน โดย "แชมเปียนส์" ดนุชกานต์ อ่อนวิมล ผู้สื่อข่าวจากมวยสยาม-สยามกีฬา โดยวันนี้มีผลมวยตกค้างจากเมื่อวันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม 2559 คู่ดึกมาฝาก ส่วนวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม 2559 ไม่มีโปรแกรมการชกของนักกีฬาทีมชาติไทย เป็นการแข่งขันของคลาส B ทั้งหมด

เป็นการแข่งขันรอบแรก ยกแรก สราวุธ ห่างหายจากผืนผ้าใบไปนานถึง 6 ปีด้วยกันและรับใช้ชาติครั้งแรกทำให้สไตล์การชกและเรี่ยวแรงดูจังหวะจะช้าๆ ไปหน่อย และก็จริงกว่าจะหวดแข้งได้แต่ละครั้งเข้าทาง ยูซูป เสียหมด เจอดักเก็บอาวุธได้แล้วมีจังหวะยกเททิ้งเล่นงาน สราวุธ อ่อนแรงลงไปได้ชัดเจนตั้งแต่ยกแรก หมดยก ยูซูป คะแนนนำ 10-9 ยกสอง สราวุธ หันมาเร่งขยันออกแข้งซ้ายยาวแล้วเริ่มทำได้ดีมากขึ้น อาวุธเตะซ้าย แม้ว่า ยูซูป จะระวังตัวเตะรับไปมากๆ ก็มีแผ่วเหมือนกัน กลางยก สราวุธ มีเหลี่ยมหักจน ยูซูป ลุกช้าทว่าปลายยกดันไปผ่อนเกมเลยทำให้ ยูซูป มีเวลาเร่งหวดแข้งเอาคืน หมดยก สราวุธ ชนะบ้างกลับมาตีเสมอที่คะแนน 19-19 ยกสุดท้าย สราวุธที่ดูเร่งเยอะมากในยกที่ผ่านมาก็ยังออกมาดักวางแข้งซ้ายอีกครั้ง แต่มายกนี้ทรงมวยถอยมากไปแถม ยูซูป ก็ต้นน้ำกลับมาสดชื่นเดินฝ่าแข้งเข้ามาต่อยหมัดสับศอกแล้วหักเหลี่ยมเอาคืนบ้าง สราวุธ โดนไปมากๆ ก็ถอยกรูออกอาการหมดแรงไปโดยปริยาย ปลายยก ยูซูป เลือกออกอาวุธสนุกข้างเดียว ครบยก ยูซูป ชนะคะแนนไป 29-28 ส่ง สราวุธ ตกรอบไปอย่างรวดเร็วเหนือความคาดหมาย

"สราวุธ" รับหมดเกลี้ยงแต่ขอสู้ต่อหลังเกมทีมข่าวมวยสยามได้สอบถามถึงความรู้สึกหลังเกมกับ สราวุธ ลูกบ้านใหญ่ ที่พลิกล็อกตกรอบว่า "ครั้งนี้ก็มาชกรับใช้ชาติครั้งแรกนะครับ ฟิตมานานซ้อมมาเยอะ แต่การที่เราร้างเวทีไปนานก็มาส่งผลตอนนี้เลยครับ ใจคิดได้แต่ทำไม่ได้ อยากจะออกอาวุธแต่ก็ยกขาไม่ขึ้น ดูขาดๆ เกินๆ ไปหมด ยอมรับครับว่าแพ้จริงในยกแรก แต่ยกที่ 2 กับ 3 ผมคิดว่าผมคุมอยู่นะ แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้อย่างที่ตั้งเป้าไว้ ก็ขอโทษแฟนมวยชาวไทยด้วยนะครับที่ทำไม่ได้อย่างที่เคยสัญญาไว้ แต่ถึงอย่างไรก็ยังไม่ท้อและขอสู้ต่อไปครับ ยังไม่เลิกง่ายๆ แน่นอนครับ"

ด้าน ดร.ศักดิ์ชาย ทัพสุวรรณ นายกมวยไทยสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ไม่ได้เข้ามาชมมวยในเวทีวันนี้ แต่ได้มาดักรอพบนักกีฬา ณ โรงแรมสแกนดิก สถานที่พักนักกีฬาทีมชาติไทย พอได้ทราบข่าวว่า สราวุธ ลูกบ้านใหญ่ พลิกล็อกตกรอบถึงกับบ่นเสียดายชุดใหญ่กับทีมงานมวยสยามว่า "เสียดายมากเลยกับข่าวร้ายนี้นะครับ ส่วนตัวเท่าที่ได้คุยกับ อ.สุรัตน์ หัวหน้าผู้ฝึกสอนก็พอจะเชื่อได้ว่า สราวุธ น่าจะมีโอกาสคว้าเหรียญทองกลับบ้าน แต่กลับต้องมาตกรอบแล้วแบบนี้ทั้งๆ ที่มาเจอนักชกจากไอวอรี่โคสต์ด้วยยิ่งประหลาดใจไปใหญ่ แต่นั่นแหละเกมกีฬามีแพ้มีชนะได้ ไม่มีใครช่วยเราได้นอกจากตัวเราเอง"

เพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป พบกับ ดิมิทรี วารัส จากเบลารุส ในพิกัดชก 67 กก. ชาย เป็นการชกรอบแรก ยกแรก วารัส ได้เปรียบรูปร่างสูงยาวกว่ามาก แถมมีประสบการณ์เคยผ่านมวยรอบท็อปคิงส์เวิลด์ซีรีย์ มาแล้วด้วยการเอาชนะ เดชฤทธิ์ ภพธีรธรรม ด้วยซ้ำความเป็นมวยไม่ต้องพูดถึงเป็นแน่นอน ส่วน เพชรบุญชู ก็ไม่ธรรมดา ได้รับฉายา "ราชาเข็มขัด" เป็นแชมป์มวยไทยถึง 15 เส้น

เปิดฉากมา วารัส เน้นลูกเตะกวาดขาพยายามเน้นวงนอกไม่ให้ เพชรบุญชู จับเสียบเข่าวงในได้เลย พอจับไม่ได้ก็เข้าทาง วารัส ที่รอจังหวะดักวางแข้งแล้วเตะกวาดล่างอาวุธทำได้ดีกว่าชัดเจน หมดยก วารัส นำ 10-9 ยกสอง เพชรบุญชู รู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไรออกมาเดินปรี่เข้าหาแล้วหวดแข้งนำ ก่อนจะเข้าไปคว้าคอเสียบเข่าวงในอย่างเดียว วารัส ที่รอจ้องจะเตะกวาดขาให้เราล้มก็ทำไม่ได้ แล้วพอทำไม่ได้ก็กลายเป็นว่ายืนตัวแข็งให้ เพชรบุญชู เสียบเข่าง่ายๆข้างเดียว ยกนี้แก้เกมมาได้ดีมาก หมดยก เพชรบุญชู กลับมาตีเสมอ 19-19 ยกสุดท้าย เพชรบุญชู ยังเดินเกมเดิมหวดแข้งนำทำลายจังหวะเปิดทางก่อนขยับเข้าไปขย่มเข่าวงในทำนานกว่า 2 นาทีค่อยออกมาเต้นผ่อนเกมทว่า วารัส ยังมีดิ้นหักเหลี่ยม เพชรบุญชู ล้มลงไป เสียงเฮกองเชียร์ดังลั่นเวทีทำเอา เพชรบุญชู ตกใจเล็กน้อย ครบยก เพชรบุญชู เฉือนชนะคะแนนไป 29-28 ผ่านเข้าสู่รอบ 2 ต่อไป

เพชรบุญชู เอฟ.เอ.กรุ๊ป ได้กล่าวหลังเกมกับทีมงานมวยสยามว่า "ไฟต์นี้ผมชกได้ต่ำกว่ามาตราฐานพอสมควรนะครับ คงเป็นเหมือนคนอื่นๆ ที่นัดแรกจะดูชกอืดๆ อยู่พอสมควร อย่างที่เห็นว่ายกแรกผมแพ้เขาเลยครับ แต่ยังดีที่อาจารย์สุรัตน์ แก้ทางให้เราเดินจับตีเลยกลับมาได้ การให้คะแนนมวยไทยอาชีพกับมวยไทยสมัครเล่นต่างกันเยอะมาก ไม่หมูเลยกับการชกมวยไทยสมัครเล่นต้องคิดไวทำไว แล้วที่สำคัญต้องทำตลอดหยุดเมื่อไหร่พลาดนิดเดียวก็แพ้ได้เหมือนกัน"

คอนสแตนติน คูซิน ของรัสเซีย ฝ่ายแดง ดวลเดือดกับ เอกพันธ์ สมบูรณ์ทรัพย์ พิกัดชก 75 กก. ชาย

ยกแรก เต็งหนึ่ง เสียเปรียบรูปร่างเล็กกว่า คูซิน ชัดเจนอย่างกับพ่อกับลูกทว่า เต็งหนึ่ง เป็นต่อแค่รูปร่างไม่ได้เป็นต่อฝีมือ เป็น เต็งหนึ่ง ที่เดินเข้าหาตัดเวทีหวดแข้งขวาบนสลับล่างและเสริมด้วยหมัดฮุกขวาทำเอา คูซิน ตั้งตำรารับไม่ทันโดนไปหลายขนานจนกองเชียร์ชาวรัสเซียเสียงเงียบทันที เต็งหนึ่ง ยังคงเดินขู่เลือกออกอาวุธง่ายๆ อยู่ข้างเดียวเหมือนเดิม นานๆ คูซิน จะโต้มาได้สักครั้ง ทว่าอาวุธแทบไม่มีน้ำหนัก หมดยก เต็งหนึ่ง นำ 10-9 ยกสอง ยังคงเป็นเกมเดิม เต็งหนึ่ง ชิงเดินและหวดแข้งต่อยหมัดชุดใหญ่ไม่ให้ คูซิน ได้ทันตั้งตัวเหมือนเดิม เสียงกองเชียร์ชาวไทยที่วันนี้เข้ามาชมกันมากกว่าทุกวันได้เฮจนคอแทบแตกเนื่องจาก เต็งหนึ่ง ชกเอาใจและตามสั่งแฟนมวยได้หมดเดินขู่ชนิดมวยคนละชั้น หมดยก เต็งหนึ่ง นำขาด 20-18 ยกสุดท้าย เต็งหนึ่ง ผ่อนเกมบ้าง ออกมาถอยดักถีบก่อนจะโชว์ฤาษีบดยาดอกนี้เรียกเสียงเฮจากแฟนมวยทั้งเวที คูซิน พยายามเร่งเอาคืนแต่ก็ทำได้แค่เสียว เต็งหนึ่ง โดนกรรมการเตือนเล็กน้อยเรื่องถอยหนีมากไปไม่ค่อยออกอาวุธ แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เต็งหนึ่ง คุมสถานการณ์ได้หมด ครบยก เต็งหนึ่ง เอาชนะคะแนนไปขาดลอย 30-27 โชว์ฟอร์มได้สวยหรูรับเสียงปรบมือจากแฟนมวยทั้งเวที

เต็งหนึ่ง ศิษย์เจ๊สายรุ้ง ก่อนจะให้สัมภาษณ์นั้นต้องให้ทีมงานช่วยกันเอาน้ำแข็งมาประคบบิรเวณข้อเท้าซ้าย เนื่องจากมีอาการบวมหลังเจ้าตัวไปเตะใส่ข้อศอกคู่ชกจนทำให้เกิดอาการบาดเจ็บแต่ก็ประคบไม่นานเจ้าตัวก็เดินมาให้สัมภาษณ์กับทีมงานมวยสยามว่า “ไฟต์นี้ต้องเปิดเกมเร็วครับ เพราะเราเสียเปรียบรูปร่างเล็กกว่าคู่ชกเยอะ จะให้เขามีเวลาตั้งตัวไม่ได้ก็เป็นไปตามที่วางแผนทุกอย่างครับ ผ่าน 2 ยกไปแล้วผมมั่นใจว่าวันนี้จะต้องชนะได้แน่นอน และก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ส่วนเรื่องอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าก็ไม่ต้องห่วงครับ หายทันรอบต่อไปพร้อมเอาเหรียญทองกลับบ้านได้แน่นอนครับ"



ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก : thairath.co.th